วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

การฟังเจริญพระพุทธมนต์


การเจริญพระพุทธมนต์ เป็นพิธีกรรมฝ่ายสงฆ์พึงปฏิบัติโดยเฉพาะในงานมงคลต่าง ๆ ได้แก่ การที่พระสงฆ์ตามจำนวนนิยมของพิธีร่วมกันสาธยายมนต์จากคาถาพุทธภาษิตบ้าง จากพระสูตรบ้าง จากมนต์ของเกจิอาจารย์เป็นธรรมคติบ้าง ตามที่ท่านพระโบราณาจารย์กำหนดไว้โดยควรแก่พิธีนั้น ๆ การสาธยายมนต์ของพระสงฆ์ในพิธีทำบุญ ถ้าเป็นงานมงคล นิยมเรียกว่า “เจริญพระพุทธมนต์” แต่ถ้าเป็นงานอวมงคล นิยมเรียกเป็นระเบียบว่า “สวดพระพุทธมนต์” เรียกคำกิริยาสาธยายว่า “เจริญ หรือ สวด” ต่างกันตามประเภทของงานเท่านั้น แต่เมื่อพูดอย่างภาษาชาวบ้านทั่วไปก็พูดกันเพียงเข้าใจง่าย ๆ ว่า “สวดมนต์” ทั้งในงานมงคลและงานอวมงคล

การเจริญพระพุทธมนต์ หรือ การสวดมนต์ จึงไม่ใช่การอ้อนวอนขอผลตอบแทน ไม่ใช่การขับกล่อมประกอบการสังเวยพระเจ้า ไม่ใช่การสวดมนต์เพื่อให้เกิดผลร้ายแก่ผู้อื่น แต่เป็นการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย เป็นการช่วยให้เกิดสมาธิสร้างพลังจิต ทำให้เกิดวินัยแก่ตน เป็นการสาธยายทบทวนคำสอนในพระพุทธศาสนา ช่วยในการทรงจำ เป็นการสร้างสิริมงคล ช่วยน้อมจิตของตนและผู้ฟัง ให้ยึดเหนี่ยวและตั้งมั่นในคุณความดี เป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม ช่วยรักษาประเพณีและแบบแผนของสังคม และช่วยยึดเหนี่ยวให้รวมกันเป็นหมู่คณะ

ฉะนั้น ผู้เข้าร่วมฟังเจริญพระพุทธมนต์ จึงควรได้ประนมมือและตั้งใจฟังพระเจริญพระพุทธมนต์หรือสวดมนต์ด้วยความเคารพ และน้อมนำธรรมจากการเจริญพระพุทธมนต์เข้ามาใส่ตัว จะทำให้เกิดสมาธิก่อให้เกิดพลังจิตที่เข้มแข็ง และบุคคลผู้มีสมาธิย่อมสามารถเรียนรู้และเกิดการเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว

3 ความคิดเห็น: